การพัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ตามกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ในปัจจุบันระบบการศึกษาของประเทศไทยมีการพัฒนามากขึ้น รัฐบาลสนับสนุนการขยายโอกาสเพื่อให้เด็กไทยได้เข้าถึงการศึกษาในทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตามการขยายโอกาสทางการศึกษา สถาบันการศึกษาต้องมีการพัฒนาด้านคุณภาพควบคู่กันไปเพื่อให้ระบบการศึกษาไทยได้มีมาตรฐานเท่าเทียมกันทุกพื้นที่ จึงมีการกำหนดระบบการประกันคุณภาพการศึกษาขึ้น
การประกันคุณภาพการศึกษา เป็นการดำเนินงานเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และสังคมว่าการดำเนินงานของสถานศึกษามีประสิทธิภาพทำให้ผู้เรียนมีระบบการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานอย่างเท่าเทียมกัน
ระบบประกันคุณภาพการศึกษา ประกอบด้วย
- การพัฒนาคุณภาพการศึกษา
- การติดตามตรวจสอบเพื่อควบคุมคุณภาพการศึกษา
- การประเมินคุณภาพการศึกษา
การประกันคุณภาพการศึกษาจึงหมายถึง การบริหารจัดการและดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจให้ผู้รับบริการทางสถานศึกษาโดยตรง ได้แก่ นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้รับบริการทางอ้อม ได้แก่ ประชาชนในชุมชน สังคม สถานประกอบการ
ความสำคัญของการประกันคุณภาพการศึกษา
- เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลคุณภาพการศึกษาที่เชื่อถือได้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม
- ป้องกันการจัดการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพ สร้างความเสมอภาคในโอกาสที่จะได้รับบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง
- ผู้รับผิดชอบในการจัดการศึกษามุ่งบริหารจัดการศึกษาสู่คุณภาพและมาตรฐานทำให้เกิดการพัฒนาประชากรให้มีคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง
ระบบและกระบวนการประกันคุณภาพการศึกษาประกอบด้วย 2 ระบบคือ 1. ระบบประกันคุณภาพภายใน 2. ระบบประกันคุณภาพภายนอก
- ระบบประกันคุณภาพภายใน (Internal Quality Assurance : IQA)
หลังจากสถานศึกษามีการดำเนินการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาภายในสถานศึกษาและนำผลการประเมินคุณภาพภายในมาเป็นฐานในการวางแผนพัฒนาเป้าหมาย และปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามลำดับ โดยคำนึงถึงหลักการและกระบวนการสำคัญดังต่อไปนี้
- หลักการมีส่วนร่วมโดยทุกคนในสถานศึกษาร่วมแรงร่วมใจปรับปรุงคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา
- หลักการร่วมรับผิดชอบในผลการจัดการศึกษาอย่างตรวจสอบได้ สามารถอธิบายคุณภาพต่อสาธารณชนได้
- หลักการประกันคุณภาพเป็นหน้าที่ของทุกคนในสถานศึกษา เช่น ผู้บริหาร ครู อาจารย์ บุคลากรสายสนับสนุนในสถานศึกษานั้นต้องรับผิดชอบและดำเนินการทุกขั้นตอนของการดำเนินงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาร่วมกัน โดยอาศัยกระบวนการพัฒนาคุณภาพด้วยวงจรแบบ PDCA
PDCA ประกอบด้วย
- กระบวนการวางแผนกำหนดเป้าหมาย (Plan)
- ดำเนินตามแผนควบคู่ไปกับการติดตามตรวจสอบ และประเมินคุณภาพระหว่างดำเนินงาน (Do & Check)
- กระบวนการนำผลการประเมินมาเป็นมาตรฐานการพัฒนาหรือยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้นต่อไป (Act)
กระบวนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาภายใน (IQA)
- กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา เป็นข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพ มาตรฐาน เป้าหมายความสำเร็จ
- การพัฒนาเข้าสู่มาตรฐานที่วางไว้ เป็นแผนที่กำหนดเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาตามระยะเวลาที่กำหนด จัดทำเป็นลายลักษณ์อักษร
บทบาทหน้าที่ของครูในการประกันคุณภาพภายใน
- เตรียมความพร้อมของตนเอง ทำความเข้าใจหลักการ วิธี ขั้นตอนการประเมินผลภายใน และสร้างเจตคติที่ดีต่อการประเมินภายใน
- ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการการประเมินผลภายใน
- ให้ความร่วมมือกับสถานศึกษาเมื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการในกิจกรรมใด ๆ ของการประเมินผลภายใน เช่น ร่วมพิจารณาการสร้างเครื่องจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ร่วมจัดทำการสำรวจ วิเคราะห์ข้อมูล สรุปประเมินผล เป็นต้น
- มีส่วนร่วมกับสถานศึกษาในการกำหนดจุดประสงค์ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ในการประเมินด้านต่าง ๆ กำหนดเกณฑ์ตัดสินมาตรฐานและตัวบ่งชี้
- ปฏิบัติหน้าที่ประจำอย่างมีระบบตามกระบวนการให้สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา เช่น ในหน้าที่ของการสอนต้องมีการพัฒนาหลักสูตรและทำแผนการสอนที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง เตรียมเนื้อหาสาระให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การเรียนการสอน ทำสื่อการสอนที่มีประสิทธิภาพ จัดกิจกรรม วิธีการเรียนที่กระตุ้นผู้เรียนให้เกิดการค้นคว้าด้วยตนเอง เลือกวิธีการประเมินผลการเรียนที่หลากหลาย ประเมินผลการสอน พฤติกรรมผู้เรียน นำผลการประเมินมาปรับปรุงอย่างต่อเนือง
- ระบบการประกันคุณภาพภายนอก
คือการประเมินคุณภาพการจัดการศึกษา ติดตาม ตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของสถานศึกษาโดยเป็นบทบาทหน้าที่ของสำนักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. ทำหน้าที่ในการติดตามตรวจสอบ และให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทำให้สถานศึกษามีความเข้มแข็งและสร้างความเชื่อมั่นต่อสังคม
นโยบายการประเมินคุณภาพภายนอกรอบใหม่
หลักการและรูปแบบการประเมินคุณภาพรอบใหม่ ประกอบด้วยการประเมินโดยอาศัยความเชี่ยวชาญ (Expert judgment) การประเมินแบบองค์รวม (Holistic Assessment) และการประเมินเชิงประจักษ์ (Evidence based assessment)
โดยการประเมินรอบใหม่เป็นการประเมินเชิงพัฒนาที่มีผู้เชี่ยวชาญไปให้คำแนะนำช่วยเหลือ ไม่ใช่การประเมินเพื่อตัดสินว่าใครได้ระดับใด ผ่านหรือไม่ เป็นการประเมินที่ไม่มีการรับรองคุณภาพของสถานศึกษา
องค์ประกอบของผู้ประเมินประกอบด้วย ตัวแทน 3 ส่วน คือ
- ผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและการประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)
- ผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต้นสังกัด
- ผู้บริหารสถานศึกษาที่เป็นอิสระจากการตรวจ โดยการประเมินรอบใหม่จะให้ความสำคัญกับมาตรฐานผู้ประเมินที่เน้นทักษะ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ
ประโยชน์จากการประกันคุณภาพการศึกษา
- สร้างความเชื่อมั่นด้านมาตรฐานการศึกษาให้กับผู้ใช้บริการสถานศึกษาและผู้ปกครอง
- สร้างความเป็นมืออาชีพ การทำงานอย่างเป็นระบบ มีความโปร่งใส เน้นคุณภาพ ตรวจสอบได้ ให้กับครูได้พัฒนาตนเองและผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง
- ผู้บริหารได้ใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างมีระบบ โปร่งใจ เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา
- สร้างมาตรฐานให้กรรมการสถานศึกษาได้ทำงานตามบทบาทหน้าที่ได้อย่างเหมาะสม มีส่วนพัฒนาสถานศึกษาและคุณภาพทางการศึกษาแก่ผู้เรียนร่วมกับผู้บริหาร และครูผู้สอน
- ได้สถานศึกษาที่มีคุณภาพเพื่อพัฒนาเยาวชนที่มีศักยภาพในการพัฒนาตนเอง องค์กร ชุมชน และประเทศต่อไป
สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาความรู้บุคลากรทางด้านการศึกษา ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “การพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (โรงเรียน/ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก) ด้วยระบบประกันคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม เพื่อการพัฒนาทักษะดิจิทัล (Digital Literacy) สู่การประกันคุณภาพการศึกษา และการประเมินผลการทำข้อตกลงพัฒนางาน PA (Performance Agreement)”
ท่านผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
• Line id : @umsu (ใส่ @ นำหน้าด้วยนะค่ะ)
• ดาวน์โหลดเอกสาร เว็ปไซด์ http://uniquest.msu.ac.th
• โทรศัพท์ 09-5197-9851, 09-5618-7887, 06-2545-6746, 08-7216-4889, 09-4538-4858
Last Updated on 12-08-2024 by Tanakrit Lawan