Loading

สิทธิ หน้าที่ และข้อควรรู้ก่อนเลือกตั้ง อบจ. 2568

การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในปี 2568 กำลังจะมาถึง การเลือกตั้งเป็นสิทธิพื้นฐานที่สำคัญของประชาชนไทย และเป็นโอกาสที่เราทุกคนสามารถร่วมกันกำหนดอนาคตของชุมชนที่เราอาศัยอยู่ ดังนั้น การเตรียมตัวและทำความเข้าใจก่อนการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ ต่อไปนี้คือข้อควรรู้ก่อนวันเลือกตั้ง อบจ. 2568

1. สิทธิในการเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • มีสัญชาติไทย (หากแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี)
  • อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ 1 มกราคมของปีที่มีการเลือกตั้ง
  • มีชื่อในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งนั้น ไม่น้อยกว่า 90 วันก่อนวันเลือกตั้ง

บุคคลที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ได้แก่

  • ผู้วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
  • ผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
  • ผู้ต้องโทษจำคุกและอยู่ในระหว่างถูกคุมขัง

2. หน้าที่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
การไปใช้ สิทธิเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของพลเมืองที่ดี เพื่อช่วยกันเลือกผู้นำที่มีคุณธรรมและความสามารถ หากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและไม่มีเหตุผลอันสมควร อาจเสียสิทธิในบางประการ เช่น การสมัครรับเลือกตั้งในอนาคต หรือการเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองบางประเภท

3. เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม
ในวันเลือกตั้ง คุณต้องนำบัตรประชาชน (หรือเอกสารที่ราชการออกให้และมีหมายเลขบัตรประชาชน) ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง อย่าลืมตรวจสอบบัตรประชาชนว่ายังไม่หมดอายุ

4. ขั้นตอนการลงคะแนนเสียง

  • ตรวจสอบลำดับที่และชื่อของคุณในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
  • รับบัตรเลือกตั้งจากเจ้าหน้าที่
  • เข้าคูหาและทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ต้องการเลือก
  • พับบัตรเลือกตั้งและหย่อนลงในหีบเลือกตั้ง

5. ข้อควรระวังในการเลือกตั้ง

  • ห้ามถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว
  • ห้ามทำเครื่องหมายที่อาจทำให้บัตรเลือกตั้งเป็นบัตรเสีย เช่น การขีดเขียนเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่กำหนด
  • ห้ามเผยแพร่ความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้สมัครในวันเลือกตั้ง

6. ผลกระทบของการเลือกตั้ง
การเลือกตั้ง อบจ. เป็นการกำหนดผู้ที่จะมาบริหารจัดการทรัพยากรในระดับจังหวัด ซึ่งครอบคลุมถึงโครงการพัฒนาชุมชน การศึกษา สาธารณสุข และ
อื่น ๆ การเลือกตั้งผู้นำที่มีคุณภาพจะช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่

7. การตรวจสอบข้อมูลผู้สมัคร
ก่อนลงคะแนนเสียง ควรศึกษาประวัติและนโยบายของผู้สมัครให้ถี่ถ้วน เช่น การศึกษานโยบายในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ การจัดการสิ่งแวดล้อม หรือการแก้ไขปัญหาชุมชน เพื่อนำไปใช้พิจารณาเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุด

8. วันเลือกตั้งและสถานที่เลือกตั้ง
อย่าลืมตรวจสอบวันเวลาและสถานที่เลือกตั้งของคุณ ซึ่งจะประกาศโดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือผ่านทางเอกสารแจ้งเตือนที่ส่งมาถึงบ้าน

ประเด็นสำคัญ เมื่อไปเลือกตั้งไม่ได้ ต้องแจ้งล่วงหน้า 7 วัน
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใดที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เนื่องจากมีเหตุอันสมควร ให้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน โดยทำเป็นหนังสือซึ่งต้องระบุเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน ภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง หรือภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง สามารถแจ้งด้วยตัวเอง หรือมอบหมายให้ผู้อื่นไปยื่นแทน หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน

เหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้

  • มีกิจธุระจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล
  • เจ็บป่วยและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
  • เป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
  • เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
  • มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กิโลเมตร
  • ได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเขตเลือกตั้ง
  • มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุอื่นที่ กกต. กำหนด
  • กรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้แจ้งเหตุไว้แล้ว หากในวันเลือกตั้งเหตุดังกล่าวได้สิ้นสุดลง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิเลือกตั้งได้

หากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะถูกจำกัดสิทธิกำหนดเวลาครั้งละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง ดังนี้

  • สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (สถ./ผถ.) หรือสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.)
  • สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน
  • เข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (สถ./ผถ.)
  • ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
  • ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้
  • บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น

ขั้นตอนการลงคะแนนเลือกตั้ง

1. ตรวจสอบรายชื่อและลำดับที่จากบัญชีรายชื่อ ที่ประกาศไว้หน้าที่เลือกตั้ง
2. ยื่นหลักฐานแสดงตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน (บัตรที่หมดอายุก็ใช้ได้) หรือ บัตรหรือหลักฐานที่ทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ที่มีรูปถ่ายและมีเลขประจำตัวประชาชน ต่อ กปน. พร้อมลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือในบัญชีรายชื่อ
3. รับบัตรเลือกตั้ง ลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือลงที่ต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ได้แก่ บัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด
4. ทำเครื่องหมายกากบาท เข้าคูหาลงคะแนนทำเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในช่องทำเครื่องหมาย ดังนี้

    • บัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เลือกผู้สมัครได้หนึ่งคน
    • บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เลือกผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้ไม่เกินจำนวนสมาชิกที่แต่ละเขตเลือกตั้งนั้นพึงมี
    • หากไม่ต้องการเลือกผู้สมัครผู้ใด ให้ทำเครื่องหมายกากบาท (X) ในช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด แล้วพับบัตรเลือกตั้ง

5. หย่อนบัตรเลือกตั้งด้วยตัวเอง นำบัตรเลือกตั้งที่พับเรียบร้อยแล้วหย่อนใส่ลงในหีบบัตรเลือกตั้งด้วยตนเอง
เวลาลงคะแนนเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 08.00 น.- 17.00 น.

สรุป

การเลือกตั้ง อบจ. 2568 เป็นโอกาสที่สำคัญในการแสดงพลังประชาธิปไตยของคุณ การรู้สิทธิและหน้าที่ของตนเอง พร้อมทั้งเตรียมตัวให้พร้อม จะช่วยให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสและมีคุณภาพ อย่าลืมว่าการลงคะแนนเสียงของคุณมีความหมายและสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของชุมชนได้
ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่กำหนด เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่ดีขึ้น เริ่มต้นได้ที่คุณ!

ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เรียบเรียงโดย สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ 14/01/2025 โดย นายธนกฤต ลาวัลย์