การควบคุมพัสดุ (Inventory Control) เป็นการจัดการและควบคุมปริมาณพัสดุหรือสินค้าคงคลังในองค์กรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เทคนิคการควบคุมพัสดุ มีหลายแบบ ดังนี้

 

  1. เทคนิค ABC Analysis

– แบ่งสินค้าคงคลังออกเป็นสามกลุ่มตามมูลค่าและความสำคัญ

– สินค้าที่มีมูลค่าสูงแต่ปริมาณน้อย ควรได้รับการควบคุมอย่างใกล้ชิด

– สินค้าที่มีมูลค่าและปริมาณปานกลาง

– สินค้าที่มีมูลค่าต่ำแต่ปริมาณมาก ควรใช้วิธีการควบคุมที่เรียบง่ายกว่า

  1. เทคนิค Economic Order Quantity (EOQ)

– เป็นสูตรที่ใช้คำนวณปริมาณการสั่งซื้อที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้เกิดต้นทุนการสั่งซื้อและต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าต่ำที่สุด

  1. Just-In-Time (JIT)

– เป็นระบบที่มุ่งเน้นให้มีสินค้าคงคลังในปริมาณต่ำที่สุด โดยจะสั่งซื้อสินค้าหรือพัสดุในปริมาณที่ต้องการใช้ทันที เพื่อประหยัดต้นทุนการเก็บรักษา

  1. First-In, First-Out (FIFO)

– เป็นวิธีการที่สินค้าหรือพัสดุที่เข้ามาก่อนจะถูกใช้หรือขายออกไปก่อน เพื่อลดความเสี่ยงจากการเสื่อมสภาพหรือสูญหาย

  1. Safety Stock

– เป็นการเก็บสต็อกสำรองไว้สำหรับการใช้ในกรณีฉุกเฉิน หรือในกรณีที่มีความต้องการที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

  1. Perpetual Inventory System

– เป็นระบบที่ติดตามปริมาณพัสดุหรือสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้สามารถตรวจสอบปริมาณที่ถูกต้องได้ตลอดเวลา

  1. Reorder Point (ROP)

– เป็นการกำหนดจุดที่ควรสั่งซื้อสินค้าหรือพัสดุใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าหมดสต็อก

  1. Material Requirements Planning (MRP)

– เป็นการวางแผนและจัดการการสั่งซื้อวัตถุดิบและพัสดุที่ใช้ในการผลิตตามความต้องการของลูกค้า

เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการและควบคุมพัสดุได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความพร้อมในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า

Copyright : https://chatgpt.com
ภาพประกอบ : www.canva.com

Last Updated on 14-08-2024 by Tanakrit Lawan